
จัดการทำสต็อกสินค้าง่ายๆ ด้วย
ระบบ POS ไม่ต้องง้อ Excel
ระบบ POS ไม่ต้องง้อ Excel
ในยุคที่ธุรกิจค้าปลีกต้องแข่งขันกันสูงขึ้น การจัดการร้านค้าอย่างมีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญ เจ้าของร้านหลายคนมักเริ่มต้นด้วย Excel หรือ Google Sheets เพื่อใช้ในการจัดการ สต็อกสินค้าภายในร้านเพราะเป็นเครื่องมือที่เข้าถึงง่ายและไม่มีค่าใช้จ่ายรายเดือน แต่เมื่อธุรกิจเติบโตขึ้น ความซับซ้อนของงานบริหารก็เพิ่มขึ้น การทำงานก็อาจจะไม่สามารถจัดการข้อมูลได้ด้วยตัวเอง นี่จึงเป็นจุดที่เจ้าของร้านเริ่มพิจารณาการใช้ ระบบ POS (ระบบจัดการร้านค้า) เพื่อมาจัดการร้านค้าแบบอัตโนมัติ เพราะประหยัดเวลาและลดข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นจากการบันทึกด้วยตัวเองได้
แต่ Excel กับ ระบบ POS แบบไหนดีกว่ากัน? แล้วแบบไหนจะเหมาะกับคุณ ในบทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจในเรื่องของระบบสต็อกสินค้า พร้อมแสดงเห็นข้อดี-ข้อเสียของแต่ละระบบ และแนะนำโซลูชันที่เหมาะสมที่สุดสำหรับร้านค้าปลีกของคุณ
สต็อกสินค้าคืออะไร ทำไมเจ้าของร้านต้องรู้
สต็อกสินค้า ไม่ใช่ ระบบสต็อกสินค้า
สต็อกสินค้า มันคือ คลังสินค้า หรือเข้าใจง่ายๆว่า จำนวนสินค้าที่ยังไม่ได้ขายออกไปและยังเหลืออยู่ โดยสต็อกสินค้า สามารถแบ่งรายละเอียดย่อยๆได้ ดังนี้
- วัตถุดิบ (Raw Materials)
- สินค้าระหว่างผลิต (Good in Process)
- สินค้าสำเร็จรูป (Finished Goods)
แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกร้านจะมีครบทุกประเภท เช่น ถ้าคุณรับเสื้อผ้าสำเร็จรูปมาขาย สต็อกของคุณก็อาจจะมีแค่ สินค้าสำเร็จรูป (Finished Goods) ก็ถือว่าปกติ แต่ถ้าเป็นร้านอาหารก็อาจจะให้ความสำคัญให้มากขึ้นหน่อยกับ วัตถุดิบ (Raw Materials) เป็นต้น
ส่วนระบบสต็อกสินค้า คือ การจัดทำให้เจ้าของธุรกิจหรือเจ้าของร้านอย่างคุณสามารถทราบถึงจำนวนสต็อกสินค้า หรือ สินค้าที่คงเหลืออยู่ในร้าน ซึ่งไม่ว่าจะใช้โปรแกรมสำเร็จรูปอย่างระบบ POS โปรแกรมออนไลน์อื่นๆ หรือแม้แต่ Excel ผลลัพธ์ที่ต้องการจริงๆมันเหมือนกัน คือ เพื่อให้มีสินค้าในคลังเพียงพอต่อการขาย และ ป้องกันไม่ให้เกิดภาวะไม่มีสินค้าขาย หรือ สินค้าเหลือเยอะเกินไป จนตกค้างในสต็อกจนหมดอายุหรือเสื่อมสภาพ ส่วนข้อดีนอกเหนือจากที่กล่างมานั้นก็คือ การป้องกันการทุจริตของพนักงาน หรือ คนในร้าน
ทำไมเจ้าของร้านค้าต้องรู้สต็อกสินค้า
ก่อนที่เราจะไปดูว่าจะเลือก Excel ในการทำสต็อกสินค้า หรือ จะใช้โปรแกรมสต็อกสินค้า (ระบบ POS) เราต้องมีทำความเข้าใจก่อนว่า ทำไมเราต้องทำระบบสต็อกสินค้าด้วย? ทั้งๆ ที่หลายๆร้าน โดยเฉพาะร้านโชว์ห่วยในต่างจังหวัดยังคงจดมือว่าวันนี้ขายอะไรได้เท่าไหร่เพื่อคำนวณยอดขาย แล้วก็นับสต็อกตอนสิ้นวัน ถ้าของใกล้หมดก็สั่งเพิ่ม แค่นั้น แต่เอาจริงๆ คุณในฐานะเจ้าของร้านจะไม่อยากรู้หรือว่า
- กำไรรวมของสินค้านั้นๆเป็นเท่าไหร่
- สินค้าแต่ละตัวเหลือกี่ชิ้นโดยไม่ต้องนับมือ
- สินค้าตัวไหนขายได้เยอะที่สุดในช่วงเวลาต่างๆ
- สินค้าตัวไหนใกล้หมด แล้วควรสั่งเพิ่มจำนวนเท่าไหร่
นอกจากนี้ ถ้าคุณไม่รู้สต็อกสินค้าที่แน่นอน คุณจะมั่นใจได้ยังไงว่าสิ่งที่คุณลงทุนลงแรงไปไม่โดนโกง สินค้าไม่หาย ทั้งหมดที่กล่าวมาถือได้ว่าเป็นสิ่งที่คุณในฐานะเจ้าของธุรกิจควรจะต้องรู้ ไม่ว่าคุณจะเปิดร้านค้าปลีก เช่น ร้านเสื้อผ้า ร้านเครื่องสำอางค์ หรือ ยิ่งเป็นร้านอาหาร คุณก็ควรต้องรู้ว่าวัตถุดิบชนิดไหนใช้เยอะแค่ไหน เหลือเท่าไหร่ เพราะสต็อกร้านอาหารเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก เพราะ วัตถุดิบสามารถหมดอายุ หรือ เสียได้

คนงบน้อย: ให้ Excel จัดการระบบสต็อกสินค้า
วิธีแรกสำหรับร้านค้าที่เพิ่งเปิดร้านใหม่ๆ ใช้ในการทำระบบสต็อกสินค้า คือ การใช้ Excel ในการบันทึกสินค้าในคลัง ซึ่งเป็นวิธีที่ไม่มีค่าใช้จ่าย แค่คุณมีคอมพิวเตอร์ที่ลงโปรแกรม Microsoft Excel
ข้อดีของการใช้ Excel จัดการสต็อกสินค้า
หลายร้านค้าเริ่มต้นด้วย Excel หรือ Google Sheets เนื่องจากเป็นเครื่องมือที่คุ้นเคย ใช้งานง่าย และไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ข้อดีของการใช้ Excel หรือ Google Sheets ในการบริหารร้านค้า ได้แก่:
- ไม่มีค่าใช้จ่าย – เพียงแค่คุณติดตั้งโปรแกรม Excel หรือเข้า Google Sheet คุณก็สามารถเริ่มทำสต็อกสินค้า ฟรี ! ถ้าคุณพึ่งเปิดร้าน และยังไม่กล้าลงทุนกับโปรแกรมจัดการสต็อกสินค้าอัตโนมัติหรือระบบ POS การใช้ Excel อาจเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคุณ
- ยืดหยุ่นในการใช้งาน – เนื่องจาก Excel ต้องทำแบบ Manual หรือทำทุกอย่างด้วยตัวเอง ดังนั้น คุณสามารถเพิ่ม Formula (สูตร) เกี่ยวกับสิ่งที่คุณอยากรู้เกี่ยวกับคลังสต็อกสินค้าของคุณ หรือ สามารถที่จะสร้างฟอร์มต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสต็อกสินค้าตามรูปแบบที่คุณต้องการ เช่น ฟอร์มบันทึกยอดขาย รายงานสต็อกสินค้า หรือ ยอดส่วนลด
- ใช้ร่วมกับไฟล์อื่นได้ง่าย – ถ้าคุณทำระบบสต็อกสินค้าใน Google Sheet มันสามารถแชร์ได้ง่าย รวมไปถึงการเซฟไฟล์ออกมาในรูปแบบของ CSV หรือ Excel คุณก็สามารถนำไปใช้กับโปรแกรมอื่นๆ ต่อได้
ข้อจำกัดของการใช้ Excel จัดการสต็อกสินค้า
แม้ว่า Excel จะเป็นเครื่องมือที่มีความสามารถหลากหลาย แต่เมื่อร้านค้ามีปริมาณสินค้าหรือการขายที่เพิ่มขึ้น ระบบนี้อาจเริ่มมีข้อจำกัด เช่น
- เสียเวลามาก – เพราะคุณจะต้องวางแผนโครงสร้างว่าอยากให้มีอะไรเอง แล้วต้องมานั่งใส่สูตรต่างๆเพื่อให้ไฟล์สามารถคำนวณได้เองในครั้งต่อๆ ไป ยิ่งถ้าคนไม่เคยใช้ Excel มาก่อน การมานั่งผูกสูตรจะเป็นเรื่องยากมาก ดังนั้น หากคุณต้องการจัดการสต็อกด้วย Excel คุณต้องแน่ใจว่าคุณมีแรงงานคนที่มีเวลามากพอมาทำข้อมูลตรงนี้
- เสี่ยงผิดพลาดสูง – คนที่มาลงข้อมูล ต้องมีความแม่นยำสูงมาก เพราะเป็นการลงข้อมูลใน Excel ด้วยมือ หรือ Manual และการผูกสูตรใน Excel ค่อนข้างซับซ้อน หากไม่แม่นยำพอ จำนวนอาจจะไม่ตรงได้ และถ้าเป็นเช่นนั้น อาจจะเกิดผลเสียต่อคลังสินค้าของคุณมากกว่าข้อดี นอกเหนือจากนี้การใส่รูปในไฟล์ Excel ก็ไม่สะดวกเท่าไหร่ เพราะตัวโปรแกรมออกแบบมาให้เหมาะกับการใส่ตัวเลขมากกว่า
- ไม่มีระบบติดตามสต็อกอัตโนมัติและไม่อัพเดตแบบเรียลไทม์ – ถ้าคุณมีหลายสาขาและต้องการใช้สต็อกสินค้าเดียวกันใน Excel อันนี้ยากมาก เพราะอาจมีการลงข้อมูลซ้ำ ลงข้อมูลพร้อมกัน ทำให้ตัวเลขไม่ตรง ยิ่งต้องกรอกข้อมูลตัวเลขต่างๆ ด้วยตัวเองแล้วเสี่ยงผิดพลาดสูงมาก ดังนั้นแนะนำว่าให้ใช้ระบบสต็อกออนไลน์ดีกว่า
- ไม่มีระบบที่ช่วยในการขยายธุรกิจ – ในการที่คุณต้องการวิเคราะห์สต็อกสินค้าและสินค้าของคุณ เช่น สินค้าตัวไหนขายออกช้า สินค้าตัวไหนค้างสต็อก สินค้าตัวไหนขายดี ทำให้คุณต้องมานั่งตั้งค่า Pivot Table ซึ่งอาจจะซับซ้อนเกินไป รวมไปถึงถ้าคุณใช้ไฟล์ Excel ในการบริหารจัดการสต็อกสินค้าจะทำให้คุณพลาดการเก็บข้อมูลลูกค้าประจำไปได้ รวมไปถึงพลาดโอกาสในการเพิ่มยอดขาย เพราะ ไม่มีระบบสมาชิก หรือ ระบบสะสมแต้มเพื่อให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ รวมไปถึงการสร้างโปรโมชั่นเฉพาะลูกค้า
ไฟล์ Excel บริหารสต็อกสินค้า ทำอย่างไร
ต้องบอกว่าถ้าให้ค่อยๆจัดการเขียนสูตรเองตั้งแต่แรกอาจจะเป็นเรื่องที่ยากมากๆ แต่วันนี้เราจะแนะนำเว็บที่สอนการบริหารสต็อกสินค้า และ เป็นเว็บที่สอนเกี่ยวกับ Excel ซึ่งก็คือ Thep Excel สำหรับเรื่องการจัดการสต็อก Thep Excel ได้เขียนไว้ทั้งหมด 3 บทความด้วยกัน
- สอนทำไฟล์ Excel บริหาร Stock สินค้าคงคลัง : Version 1 ง่ายสุดๆ https://www.thepexcel.com/excel-stock-inventory-v1
- สอนทำไฟล์ Excel บริหาร Stock สินค้าคงคลัง : Version 2 แยกตารางซื้อขาย https://www.thepexcel.com/excel-stock-inventory-v2
- สอนทำไฟล์ Excel บริหาร Stock สินค้าคงคลัง : Version 3 ระบุช่วงเวลา https://www.thepexcel.com/excel-stock-inventory-v3
ต้องบอกตรงๆ ถึงแม้ว่าจะถนัด Excel แต่การที่ต้องจัดการสต็อกก็ค่อนข้างยากและใช้เวลานานมากๆ แต่ถ้าคุณชอบ Excel มีความละเอียดรอบคอบ และ มีเวลามากพอ การใช้ Excel ก็ถือว่าเป็นข้อดีเพราะมันไม่มีค่าใช้จ่ายอะไร

สินค้าเยอะ มีหลายสาขา จัดการคลังสินค้าด้วยระบบ POS
(โปรแกรมสต็อกสินค้า)
ความสามารถของระบบ POS
ระบบ POS (Point of Sale System) คือ ระบบจัดการร้านค้าที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้การขายและบริหารร้านเป็นไปอย่างราบรื่น โดยระบบ POS ไม่ได้เป็นเพียงแค่ “เครื่องคิดเงิน” แต่ยังช่วยให้เจ้าของร้านสามารถจัดการสต็อกสินค้า วิเคราะห์ยอดขาย และสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น
🔹 จัดการสต็อกอัตโนมัติ – ระบบ POS จะอัปเดตสต็อกสินค้าอัตโนมัติทุกครั้งที่มีการขาย ลดความผิดพลาดจากการนับสินค้าด้วยมือ
🔹 บันทึกยอดขายเรียลไทม์ – เจ้าของร้านสามารถดูยอดขายผ่านมือถือหรือคอมพิวเตอร์จากที่ไหนก็ได้
🔹 รองรับการชำระเงินหลากหลายรูปแบบ – ทั้งเงินสด, QR Code, บัตรเครดิต และ e-Wallet
🔹 มีระบบสมาชิกและสะสมแต้ม – สร้าง Loyalty Program เพื่อให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ
🔹 ทำงานร่วมกับการตลาดออนไลน์ – บางระบบสามารถส่งโปรโมชั่นหรือ SMS หาลูกค้าได้อัตโนมัติ
ข้อดีของโปรแกรมสต็อกสินค้าหรือระบบ POS
สำหรับร้านค้าใหญ่ๆ มีสินค้าจำนวนมาก มีสาขาเยอะ ต้องใช้สต็อกสินค้าร่วมกัน การใช้ Excel ก็อาจจะทำได้ยาก เสียเวลาในการทำ รวมไปถึงเปลืองแรงงานด้วย การใช้ระบบ POS หรือโปรแกรมสต็อกสินค้าก็อาจจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
- ไม่เปลืองเวลา ไม่ต้องจ้างแรงงานคน – ทุกอย่างสามารถจัดการได้แบบอัตโนมัติ เพียงแค่คุณกรอกข้อมูลสินค้าเริ่มต้น หลังจากนั้นเมื่อมีการซื้อ ขายสินค้าระบบก็จะทำการตัดสต็อกอัตโนมัติ เมื่อมีการสั่งสินค้ามาเพิ่มก็สามารถกรอกข้อมูลได้เลย สำหรับร้านที่มีหลายสาขาตัวเลขก็จะอัพเดตพร้อมกันในทุกสาขาพร้อมกัน การใช้ระบบเข้ามาช่วยก็จะมีความถูกต้อง และความแม่นยำมากกว่าการจัดการข้อมูลด้วยตัวเอง รวมไปถึงการใช้งานร่วมกับระบบบาร์โค้ด ซึ่งทำให้การจัดการสินค้าง่ายขึ้น
- ป้องกันการทุจริตได้ในขั้นต้น – เนื่องจากระบบ POS เป็นการจัดการสินค้าในสต็อกแบบอัตโนมัติ ดังนั้น ต้องมีการซื้อ-ขายสินค้าก่อนระบบถึงจะทำการตัดสินค้าออกจากสต็อก นอกจากนี้ตัวระบบเองยังมีการบันทึกข้อมูลการเปลี่ยนแปลงข้อมูลต่างๆ ว่าใครเป็นคนทำรายการอะไรไว้แบบคร่าวๆ เพื่อให้คุณสามารถย้อนมาเช็คได้
- การขยายธุรกิจทำได้ง่ายขึ้น – เนื่องจากระบบ POS ส่วนใหญ่จะมาพร้อมกับระบบต่างๆ ที่ช่วยในการขยายธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นระบบสมาชิก ระบบสะสมแต้ม ระบบการตลาดผ่านทาง SMS หรือแม้กระทั่งระบบ Cashback ซึ่งจะช่วยทำให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำได้ง่ายขึ้น ทำให้การทำการตลาดหรือการทำโปรโมชั่นให้โดนใจลูกค้าก็จะง่ายขึ้น เพราะเรามีข้อมูลของลูกค้าอยู่ในระบบ
ทำไมระบบ POS จึงเหมาะกับธุรกิจค้าปลีก
ธุรกิจค้าปลีกในปัจจุบันต้องเผชิญกับการแข่งขันสูง และการใช้ Excel อาจไม่ตอบโจทย์เมื่อธุรกิจเริ่มขยายตัว ระบบ POS จึงกลายเป็นเครื่องมือที่จำเป็น โดยเฉพาะร้านค้าที่ต้องการเพิ่มยอดขายและปรับปรุงการจัดการของร้าน เช่น
ร้านเสื้อผ้าแฟชั่น
- ควรใช้ระบบ POS ที่สามารถติดตามสต็อกสินค้าได้แยกตาม ขนาด สี และประเภทของเสื้อผ้า
- มีระบบ บัตรสมาชิกและสะสมแต้ม เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ
- ควรเชื่อมต่อกับระบบ การตลาดอัตโนมัติผ่าน SMS เพื่อแจ้งโปรโมชั่นและส่วนลดพิเศษ
📌 อ่านเคล็ดลับเพิ่มเติมเกี่ยวกับ การเปิดร้านเสื้อผ้าให้ประสบความสำเร็จในปี 2568 ที่นี่:
ร้านขายอุปกรณ์สัตว์เลี้ยง (เพ็ทช็อป)
- ควรมีระบบ POS ที่สามารถ จัดหมวดหมู่สินค้าได้ละเอียด เช่น อาหารสัตว์ ยา ของเล่น และอุปกรณ์ดูแลสัตว์
- ระบบ แจ้งเตือนสต็อกสินค้า ช่วยให้เจ้าของร้านไม่พลาดสินค้าสำคัญ
- ควรมี ฟีเจอร์สะสมแต้มและส่ง SMS โปรโมชั่น เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ
📌 ดูตัวอย่างร้านขายอุปกรณ์สัตว์เลี้ยงที่ใช้ POS ได้ที่นี่:
ร้านเครื่องประดับ
- ควรใช้ POS ที่สามารถจัดการสินค้าราคาสูงได้ดี และมีระบบ แยกรายการสินค้าแบบละเอียด
- ระบบ ติดตามยอดขายแบบเรียลไทม์ ช่วยให้เจ้าของร้านดูยอดขายได้จากทุกที่
- มีระบบ CRM (Customer Relationship Management) เพื่อจัดเก็บข้อมูลลูกค้าและให้บริการแบบเฉพาะเจาะจง

จะซื้อ โปรแกรมสต็อกสินค้า หรือ ระบบ POS ต้องดูอะไรบ้าง
เพราะร้อยละ 90 ของโปรแกรมสต็อกสินค้ามันไม่ฟรี ดังนั้น ถ้าเราต้องเสียเงิน เราต้องดูก่อนว่าโปรแกรมที่เราจะซื้อ มันทำได้ครบทุกอย่างหรือเปล่า แล้วคำว่า “ทุกอย่าง” มันมีอะไรบ้าง มาดูกัน
- ระบบต้องทำงานออนไลน์ เช็คข้อมูลบนมือถือได้ คุณจะได้สามารถดูข้อมูลคลังสินค้าของร้านของคุณ ที่ไหนก็ได้ ตอนไหนก็ได้ แม้คุณไม่ได้อยู่ร้าน
- มีระบบแจ้งเตือนสต็อกใกล้หมด คุณจะได้ไม่ลืมการสั่งซื้อสินค้า
- รายงานสินค้าขายดีได้ คุณจะได้วางแผนได้ว่า สินค้าตัวไหนควรนำมาจัดโปรโมชั่น หรือ สั่งซื้อเยอะเป็นพิเศษ
- ต้องสามารถบันทึกซัพพลายเออร์ได้ เราจะได้ทราบว่า สินค้าล็อตไหน ซื้อมาจากซัพพลายเออร์ใด ราคาเท่าไหร่ ในอนาคต เราจะได้เปรียบเทียบราคาและความคุ้มค่าของซัพพลายเออร์แต่ละเจ้าได้
- หากคุณขายของออนไลน์ โปรแกรมที่คุณเลือกใช้ ต้องสามารถจัดการสต็อกบนเว็บไซต์ของคุณได้ด้วย
- หากคุณเป็นร้านอาหาร คุณต้องเลือก โปรแกรมสต็อกสินค้า ที่สามารถ ผูกสูตร ตัดสต็อกได้ เช่น หากคุณขายชานมไข่มุก 1 แก้ว ระบบควรตัดสต็อกให้คุณได้ว่า ใช้ชาไปกี่ มล. และ ใช้ไข่มุกไปกี่กรัม แบบอัตโนมัติ
- Interface สวยงาม และ ต้องใช้งานง่าย เพราะถ้าซื้อระบบแล้วใช้งานยาก กลับไปใช้ Excel อาจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
สรุป: ควรเลือก Excel หรือ POS System ดี?
ระบบ POS | Excel / Google Sheet | |
---|---|---|
การบันทึกยอดขาย | จัดการแบบอัตโนมัติ | ต้องกรอกเองทุกครั้ง |
การจัดการสต็อก | อัพเดตเรียลไทม์ | ต้องอัปเดตเอง อาจเกิดข้อผิดพลาด |
ระบบสมาชิก | มีระบบสะสมแต้ม อัตโนมัติ | ไม่มี ต้องสร้างไฟล์แยก |
การเชื่อมต่อหลายสาขา | ซิงค์ข้อมูลอัตโนมัติ | ทำได้ยาก ต้องใช้หลายไฟล์ |
การติดตามยอดขาย | ดูผ่านมือถือแบบเรียลไทม์ | ใช้สูตรวิเคราะห์เอง |
ความคุ้มค่าในระยะยาว | มีค่าใช้จ่าย แต่ช่วยเพิ่มยอดขาย | ฟรี แต่ใช้เวลามาก |
✅ ควรใช้ Excel หรือ Google Sheets หาก...
- เป็นร้านค้าเล็ก ๆ ที่มีสินค้าไม่มาก
- ไม่ต้องการลงทุนในระบบ POS
- พร้อมรับภาระงานเพิ่มในการบันทึกข้อมูลเอง
✅ ควรใช้ POS System หาก...
-
ต้องการระบบที่ช่วยจัดการสต็อกและยอดขายแบบอัตโนมัติ
-
มีหลายสาขา หรือวางแผนขยายธุรกิจ
-
ต้องการระบบสมาชิก และการตลาดอัตโนมัติ
📌 อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ POS System และความสำคัญของมันได้ที่นี่:
คำถามที่พบบ่อย
Excel ใช้สำหรับบันทึกข้อมูลแบบ Manual หรือบันทึกข้อมูลด้วยมือ ในขณะที่ระบบ POS หรือโปรแกรมสต็อกสินค้าสามารถอัพเดตข้อมูลอัตโนมัติและช่วยลดข้อผิดพลาดของการจัดการสต็อกสินค้าได้
ระบบ POS มีค่าใช้จ่ายหลากหลายราคาไม่ว่าจะเป็นซื้อขาดหรือจ่ายแบบรายปี ขึ้นอยู่กับยี่ห้อของระบบ POS รวมไปถึงความต้องการใช้ฟีเจอร์ต่างๆ แต่การใช้ระบบ POS ช่วยลดภาระงาน ลดการทำงานของพนักงานลง เพิ่มประสิทธิภาพ และช่วยให้ร้านค้าขายดีขึ้น
ถ้าร้านของคุณเป็นร้านที่มีสินค้าหลายรายการ สินค้าในแต่ละรายการมีรูปแบบที่ต่างกันหลายรูปแบบ เช่น สินค้า 1 ชิ้นมีหลายขนาด หลายสีให้เลือก ต้องการระบบที่ช่วยจัดการสต็อกสินค้าเพื่อไม่ให้มีสินค้าค้างอยู่ในสต็อกเป็นเวลานาน และต้องการมีระบบสมาชิกเพื่อเก็บข้อมูลลูกค้าไว้ ระบบ POS ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคุณ
ระบบ POS สมัยใหม่ เช่น StoreHub ใช้งานง่าย แม้ไม่มีพื้นฐานด้านเทคนิค โดยทาง StoreHub จะมีการนัดสาธิตวิธีการใช้ระบบทางออนไลน์ให้กับลูกค้า หรือ หากต้องการให้ทีม StoreHub เข้าไปติดตั้งระบบ POS ที่ร้านค้าก็สามารถทำได้เช่นกัน หากสนใจระบบ POS จาก StoreHub สามารถคลิ้กที่นี่เพื่อกรอกข้อมูลให้ทีมงานติดต่อกลับได้เลย
ก่อนที่คุณจะซื้อระบบ POS จาก StoreHub ทางทีมจะมีการคุยถึงความต้องการของคุณก่อน และมีการนัดสาธิตระบบให้กับคุณเพื่อดูว่าตรงกับความต้องการของคุณหรือไม่ หลังจากนั้นจะทางทีมจะแนะนำแพ็กเกจราคาชัดเจน โดยคุณสามารถเลือกแพ็คเกจให้เหมาะกับร้านค้าของคุณได้ หากสนใจสามารถส่งรายละเอียดของคุณให้ทีมงานติดต่อกลับได้เลย